เบื้องหลังและความสำเร็จ ของ อำมหิต มร.ริปลีย์

The Talented Mr. Ripley ดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อเดียวกันของแพทริเซีย ไฮสมิธ ที่เขียนในปี ค.ศ. 1955 และเคยสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้วครั้งหนึ่งของฝรั่งเศสชื่อ Plein Soleil ในปี ค.ศ. 1960 (ชื่อภาษาอังกฤษ Purple Noon นำแสดงโดย อแลง เดอลอง) สำหรับในครั้งนี้บทภาพยนตร์ดัดแปลงโดย แอนโทนี มิงเกลลา ผู้กำกับเอง

ฉากหลังของภาพยนตร์เป็นยุคทศวรรษที่ 50 ในสหรัฐอเมริกาและอีกหลายเมืองในอิตาลีเช่น โรม และ เวนิส ซึ่งภาพยนตร์ก็ได้ไปถ่ายทำในสถานที่เหล่านั้น ที่ซึ่งมีสถาปัตยกรรมและสภาพแวดล้อมที่สวยงาม

อีกหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้ คือ ดนตรีประกอบที่เป็นดนตรีในแนวแจ๊สภาษาอิตาเลียน ที่ทั้งดิกกี้ และ ริปลีย์ ร่วมร้องกันในผับ

ภาพยนตร์ได้นักแสดงที่มีชื่อเสียงมากมายมาร่วมแสดง ซึ่งในแต่ละตัวละครได้บทที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โดยเฉพาะการแสดงของ จูด ลอว์ ที่รับบท ดิกกี้ กรีนลีฟ ลูกชายมหาเศรษฐีจอมเพลย์บอย ที่ได้มีชื่อชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมด้วย

นอกจากนี้แล้วยังได้เข้าชิงรางวัลออสการ์อีกหลายสาขา ทั้ง บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม, ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม, ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม และรางวัลลูกโลกทองคำอีก 5 สาขา ทั้ง นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม, นักแสดงประกอบชายยอดเยี่ยม, ภาพยนตร์ดราม่ายอดเยี่ยม, ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยม

ในปี ค.ศ. 2002 Ripley's Game ซึ่งเป็นนิยายเกี่ยวกับ ทอม ริปลีย์ เล่มที่3 ต่อจาก The Talented Mr.Ripley และ Ripley Underground ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่อีกครั้ง โดยมี จอห์น มัลโควิช รับบทเป็น ทอม ริปลีย์ (ครั้งแรกสร้างในปี 1977 ชื่อ The American Friend มี เดนนิส ฮอปเปอร์ รับบทเป็น ทอม ริปลีย์)